นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า ไทยฮอนด้า ผู้นำวงการรถจักรยานยนต์ไทย คาดการณ์ว่าตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 65 จะแตะระดับ 1.74 ล้านคัน เติบโตขึ้น 8% หลังตลาดในครึ่งปีแรกมีแนวโน้มที่ดี โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของรถในกลุ่ม เอ.ทีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ที่มีโมเดลจากฮอนด้า ครองยอดจำหน่ายสูงสุดในทุกประเภท พร้อมเดินหน้าผลักดันการผลิตอย่างเต็มที่หลังสถานการณ์ขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มดีขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทย โดยฮอนด้าวางเป้าหมายยอดจำหน่ายในปีนี้ไว้สูงถึง 1.359 ล้านคัน เติบโตขึ้น 10% ครองความเป็นผู้นำตลาดติดต่อกันเป็นปีที่ 34
“ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยครึ่งปีแรกมีทิศทางที่ดี โดยมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 911,162 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีก่อนหน้า ในขณะที่ฮอนด้ามีตัวเลขอยู่ที่ 705,487 คัน เติบโตขึ้น 3% ใกล้เคียงกับตลาดรวม โดยเซกเมนต์ที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุดคือกลุ่มรถ เอ.ที. ซึ่งมียอดรวมอยู่ที่ 397,733 คัน เติบโตขึ้น 6% สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ฮอนด้ามีการเติบโตในกลุ่มนี้มากถึง 12% ด้วยตัวเลข 279,207 คัน เป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมค่อนข้างมาก”คำพูดจาก สล็อตpg
“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถ เอ.ที. ได้รับความนิยมสูง มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่สนใจรถที่ขับขี่ง่าย สะดวกสบาย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน โดยรถ เอ.ที. ของฮอนด้าสามารถตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดี จนสามารถครองอันดับหนี่งในรถ เอ.ที. ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น Scoopy ที่มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 96,679 คัน สูงเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น เอ.ที. เช่นเดียวกับ Click Series ที่มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 64,732 คัน สูงที่สุดในกลุ่มสปอร์ต เอ.ที. ในขณะที่ PCX160 ก็สามารถครองยอดจำหน่ายสูงสุดในกลุ่มพรีเมียม เอ.ที. ได้เช่นกันที่ 77,708 คัน และท้ายสุดในกลุ่มรถไฮพรีเมียม เอ.ที. Forza350 ก็ได้รับการตอบรับจากตลาดสูงสุด ด้วยยอดจดทะเบียนสูงถึง 10,988 คัน โดยความนิยมในรถ เอ.ที. ทั้ง 4 รุ่นนั้นมาจากดีไซน์ที่สวยงามสะท้อนคาแรกเตอร์และไลฟ์สไตล์ได้อย่างโดดเด่น เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันที่มากับเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ล้ำหน้า รวมทั้งเทคโนโลยีจากเครื่องยนต์ eSP+ 4 วาล์ว อันทรงพลังของฮอนด้า”
“เราคาดว่าตลาดโดยรวมของปี 65 จะสูงขึ้นจนไปแตะระดับ 1,740,000 คัน เติบโตขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปี 64 ในขณะที่ฮอนด้าได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,359,000 คัน เติบโตขึ้น 10% มากกว่าตลาดรวม โดยฮอนด้าได้วางแผนการผลิต การบริหารชิ้นส่วนอะไหล่รวมทั้งสต๊อกให้สามารถรองรับความต้องการของตลาดที่ครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ รวมทั้งพร้อมรองรับความต้องการจากกิจกรรมกระตุ้นตลาดของรถรุ่นใหม่ๆ และรถรุ่นที่ได้รับความนิยมของตลาดให้สามารถตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
นอกจากกลยุทธ์ด้านบริหารการผลิตและการขายแล้ว ในครึ่งปีหลังไทยฮอนด้ายังเดินหน้ายกระดับมาตรฐานของศูนย์บริการ Honda Wing Center ด้วยการปรับรูปแบบหน้าร้านครั้งใหญ่ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย โดยวางเป้าหมายไว้ที่ 100 สาขาภายในปีนี้ และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม Iconic Bike ที่มีการขยายตัว ไทยฮอนด้าเตรียมรุกตลาดเพื่อตอบสนองงานขายและบริการด้วยแผนเปิด CUB House Corner ในร้าน Honda Wing Center ถึง 22 แห่งทั่วประเทศภายในปี 65 พร้อมยกระดับงานบริการหลังการขายด้วยมาตรฐานงานบริการที่ให้ความเชื่อมั่นด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และทักษะฝีมือช่างที่ชำนาญการในการรองรับเทคโนโลยีของรถรุ่นใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กัน